Boy's Thought

ตัวครูกว่าจะเขียนเนื้อหา สอนเด็กพิเศษให้เป็นเด็กปกติ จากประสบการณ์ 13ปีออกมาได้ ใช้เวลา๒ปีค่ะ . บอกผู้ใหญ่ที่เคารพไว้ว่าต้องช่วยครอบครัวเด็กพิเศษ และครูที่โรงเรียนให้ทำงานง่ายขึ้นให้ได้ บอกจนท่านตายไปก่อนหน้า ก็ยังไม่เสร็จ ...จนบัดนี้เสร็จแล้ว . กว่าจะเขียนในสไลด์ หาภาพ คลิปประกอบให้เข้าใจง่าย ๕ เดือน ทำเช้า ยัน เย็น . สินค้าจากมันสมองมันคิดยาก ทำยาก ....สินค้าจากประสบการณ์ยากกว่า . สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ 0819629938 #อบรมการศึกษาพิเศษ #สอนเด็กพิเศษ #สัมมนา #งานจากสมอง #vipkidclub #พัฒนาการเด็ก #การสอนเด็ก #การศึกษาพิเศษ #เด็กพิเศษ #สอนเด็กพิเศษให้เป็นเด็กปกติ

ผลประเมิน PISA นร.ไทยแพ้เวียดนาม

เมื่อวานมีข่าวเรื่องการจัดอันดับการศึกษาไทยที่แพ้เวียดนามมา๓ปีซ้อน และตกต่ำมา ๑๕ ปี ติดๆ กัน บางคนว่าเราไม่ควรสอนให้อ่านออกเขียนได้ก่อน ๖ ขวบ มันมาจากการศึกษาพัฒนาการทางสมองที่ว่าเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง๓ปี ควรเลี้ยงด้วยความรักความอบอุ่น ให้เด็กมีความมั่นคงทางจิตใจ สมองจะสร้างเซลส์ประสาทมาก สมองสร้างสายใยประสาทเชื่อมโยงการทำงานของสมองไว้ด้วยกัน ๓-๖ ขวบจึงควรให้เด็กฝึกคิดจิตนาการ ให้ได้เล่น จับ ทำมากๆ หลังจาก ๖ ขวบเด็กสามารถเรียนวิชาการได้ ผลการติดตามวิจัยพบกว่า เด็กกลุ่มนี้จะมีทักษะทางวิชาการช้าในช่วงแรก และจะคล่องๆดีขึ้นตามลำดับ เพราะสายใยประสายที่สร้างไว้เชื่อมโยงคิดเชื่อมโยงเนื้อหากันจนเข้าใจ คิดอะไรออกได้ง่ายกว่า นักวิจัยติดตามเด็กไปจนโต พบกว่าเด็กกลุ่มนี้จะสามารถแก้ปัญหาชีวิตและประสบความสำเร็จได้ดีกว่า ส่วนเด็กที่อัดวิชาการ ก่อน ๖ ขวบ การวิจัยพบว่า เด็กกลุ่มนี้จะมีความเก่งวิชาการมากในช่วงประถม แต่กราฟจะเสมอไม่พุ่งอีก จินตนาการและการเชื่อมโยงจะน้อย ทำให้การเรียนสม่ำเสมอ ติดตามไปจนโตพบกว่า คนกลุ่มนี้มีเปอร์เซ็นต์ประสบความสำเร็จน้อยกว่ากลุ่มแรก และเมื่อเจอปัญหาชีวิตมักเครียดมาก แก้ไม่ได้ บางคนว่าเราควรปรับหลักสูตรที่มียากไป ไม่ดี ครูเปิดดูหนังสือของกระทรวงแล้วก็ไม่อยากนะ แต่หนังสือที่โรงเรียนเลือกใช้แต่ละสำนักพิมพ์น่ะยาก และวิธีการวัดผลของครูก็เป็นแบบเดิมๆ เน้นไปที่การจำ ไม่ได้ถามให้คิดวิเคราะห์ เหตุผล คำพูดนี้มันวนมาให้เราอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก พูดตามๆกันมา มันไม่ถูกกกกก เดี๋ยวววววววว !!! ในมุมมองของครูนั้น การสอนให้อ่านออกเขียนก่อน ๖ขวบไม่ใช่เรื่องผิด ควรสอนตามศักยภาพของสมอง อย่าลืมว่ายังมีเด็กปัญญาเลิศในประเทศไทยนะ การสอนควรสอนแบบไม่ยัดเยียด ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เด็กถาม อยากรู้ก็สอน ...การสอนไม่ใช่การสอบวัดเด็ก เพื่อประเมินให้สอบเข้า เราเข้านะว่ามีโรงเรียนที่เน้นสอบเด็กเก่งเข้าไปเรียน แต่ถ้าคุณลูกค้าของโรงเรียนไม่เล่นด้วย เดี๋ยวโรงเรียนพวกนี้ก็ปิดๆกันไปเองแหละ เพราะการสร้างโรงเรียนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ต้องรับผิดชอบหลายปากหลายท้อง เพราะถ้าเราไม่สอนให้อ่านออกเขียนได้ ปิดกั้นเด็ก เด็กที่ศักยภาพทางสมองเขาถึง ก็พลาดโอกาสในการเรียนรู้ไป การสอนเด็กให้อ่านออกเขียนได้ มันอยู่ที่วิธีการสอน วัดกึ๋นคนสอน ว่าจะจัดในรูปแบบไหน คนเป็นครูจะรู้เทคนิคการสอนเด็กที่โดนสั่งสอนเด็กจากคณะครุฯ เอามาใช้ เช่นการเล่นปนเรียน การแสดงบทบาทสมมุติ การทัศนศึกษา เล่นมุม เป็นต้น ดังนั้นกระทรวงถึงเข้มงวดนักหนาว่า คนที่ไม่ได้เรียนครูต้องไปเรียนครูเพิ่มอีก ๑ ปี เพราะการเรียนสาขาภาษาไทย คณะมนุษย์ฯ กับครุฯ มันเรียนต่างกัน ....การเป็นครูเราเน้นที่สอนได้ สอนเป็นมากก่อน ความเก่งมันฝึกกันได้ เนื้อหาสอนเด็กอนุบาล และประถม ไม่อยากไปสำหรับผู้ใหญ่หรอกค่ะ เราอยากได้คนสอนเป็น จะได้ไม่เป็นปัญหากับลูกหลาน . เดี๋ยววววว สิ่งที่ทำให้การศึกษาไทยตกต่ำอีกอย่างหนึ่งคือ การที่ครูไม่รู้วิธีจัดการกับเด็กที่มีความสามารถหลากหลายในห้องเรียน และกลุ่มเด็กพิเศษ....ลองเปิดใบทรานสคิปครูว่าได้เรียนการสอนเด็กพิเศษหรือไม่ สัก๑วิชา เพราะมหาวิทยาลัยไม่มีอาจารย์ที่จบสาขานี้ประจำอยู่เลย ดังนั้นจะปรับปรุงการศึกษาไทย โละอาจารย์มหาลัยคณะครุ ศึกษาก่อนเลยค่ะ อาจารย์พวกนี้จับมาสอนสอบเด็กประถมหรือมัธยมให้นักศึกษาดู ระดับการศึกษาไทยไม่ดีโทษครู พอครูไทยสอนไม่ดีอาจารย์มหาลัยไม่รับผิดชอบซะงั้น ....๕ปีเชียวนะเรียนครูน่ะ กลับไป๔ปีเถอะ หลอกใช้แรงงานนักศึกษาฟรี ๑ปี สงสารน้องๆ เนื้อหาการแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้จะหมดไป ลงเรียนครอสสัมมนาเลยค่ะ ครูเขียนเนื้อหานี้ไว้หมดแล้ว เพราะเราคือทีมเดียวกัน สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ 081 962 9938 #เด็กพิเศษ #การฝึกเด็ก #พัฒนาการเด็ก #การศึกษาพิเศษ #พ่อแม่เด็ก #ลูก #การสอนเด็กให้ได้ผล #นักการศึกษาพิเศษ #จิตวิทยาเด็ก #เข้าใจเด็ก #vipkidclub #การศึกษาไทย #การสอนให้อ่านออกเรียนได้

Timeline Photos

การทำให้เด็กพิเศษไม่โดนแกล้ง เคยเห็นเรื่องของคนที่โดนรุมด่า โดนทำร้าย มีผู้คนผ่านไปมาเยอะแยะ แต่มีแต่คนมุง และถ่ายคลิปไว้ไหมคะ และปล่อยให้คนคนนั้นโดนทำร้ายต่อไป . มันคือปรากฏการณ์ไทยมุง เพราะคิดว่าเราช่วยเขาไม่ได้ มีคนอื่นที่ช่วยเขาได้ และเปรียบเทียบว่าคนอื่นยังไม่ช่วยเลย งั้นเราไม่ต้องรับผิดชอบอะไร . มีการทดลองในรายการ สปอน ฉลาดสุด และมีเขียนในหนังสือขุนเขาเกาสมองว่า หากเราระบุชี้ตัว ให้เขาช่วยเรา เราจะได้รับการช่วยเหลือมากกว่า และหาเราเป็นพวกเดียวกัน เราจะได้รับการดูแลมากที่สุด . ทุกครั้งที่ครูไปช่วยเด็กที่โรงเรียน ครูจะบอกเด็กๆอยู่อเสมอว่าให้รู้จักชื่อเพื่อนทุกคนให้ได้ก่อน และเลือกเพื่อนที่ตัวเองชอบมาเป็นเพื่อน เพื่อดึงเด็กเข้ากลุ่ม . เพราะเมื่อเด็กโดนรังแก ด้วยความเป็นเพื่อนกัน เขาจะได้รับการปกป้องไปด้วย และการรู้จักชื่อเพื่อน เมื่อเด็กพิเศษโดนรังแก แด็กจะวิ่งไปขอความเชื่อเหลือจากเพื่อนที่เขารู้จักชื่อ การมีพรรคพวก ความรู้สึกเป็นเพื่อนกันจะทำให้เด็กมั่นคงทางจิตใจ และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง ฝ่ายเด็กที่เป็นเพื่อนจะรู้สึกถึงเพื่อนคนหนึ่งของเราโดนรังแก รู้สึกถึงโดนหยามกลุ่ม รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของกลุ่ม จนต้องปกป้องคนในกลุ่มตัวเอง . แต่!!!คุณพ่อคุณแม่เด็กพิเศษคะ การจะผลักดันเด็กเข้าหา เป็นเพื่อนใคร ลูกเราก็ต้องน่ารัก เข้าสังคมได้ ต้องฝึกตรงนี้ก่อนนะคะ การที่ลูกเราทำตัวไม่น่าคบ แต่อยากมีเพื่อน ก็ไม่ยุติธรรม หรือเรียกร้องแต่ฝ่ายเดียว ตัวเราเองก็ต้องพัฒนาตนเองให้คนดีดีอยากมาคบด้วยเช่นกัน . เนื้อหารูปแบบเต็ม มากกว่านี้ทำอย่างไรให้ลูกมีเพื่อน ถามได้ ตอบได้ เจอกันตัวเป็นๆในงานสัมมนา ลงเรียนได้เลยวันนี้ค่ะ เพราะเราคือทีมเดียวกัน สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ #เด็กพิเศษ #การฝึกเด็ก #พัฒนาการเด็ก #การศึกษาพิเศษ #พ่อแม่เด็ก #ลูก #การสอนเด็กให้ได้ผล #นักการศึกษาพิเศษ #จิตวิทยาเด็ก #เข้าใจเด็ก #vipkidclub #ทำอย่างไรให้เด็กมีเพื่อน #ไม่รังแกเด็กพิเศษ

SK-II Thailand

เป็นโฆษณาที่งดงามมากค่ะ . ในตัวโฆษณาดีอยู่แล้ว สะท้อนถึงความรักที่มีให้กันและกัน ของแม่และลูก . เราจะเห็นหนังมากมายที่สร้างภาพจำว่า เวลาเราเห็นคนที่เรารักมองอะไร ต้องชิงซื้อมาวางให้ก่อน หากโฆษณานี้เป็นแบบนั้นคงไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่โฆษณานี้ไม่ใช่ . . ดังนั้นอย่าเชื่อว่าเราจะมองเห็นในสิ่งที่เห็นเสมอไป เขาไม่ได้มองเหมือนเราเห็น . ครูจะพูดถึงการให้รางวัล หรือการซื้อของให้เด็ก ในโฆษณานี้สอนได้ดี ครูจะเอามาเขียนขยายความต่อ . การให้ของอะไรกับเด็ก ผู้ปกครองควรให้เขาเอ่ยปากขอ และอยากได้เอง ไม่ควรหาซื้อให้ ยัดเยียดให้ เพราะเมื่อให้อะไรง่ายๆโดยเด็กไม่เอ่ยปากขออยากได้ สิ่งนั้นก็ไร้ค่า เขาจะไม่เห็นคุณค่า หรือเสียดายเมื่อมันพังเสียหาย และทำร้ายจินตนาการของเด็กไป เขาจะไม่มีความอยากได้อะไร ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะคิดฝัน อยากได้...และคุณพ่อคุณแม่ก็จะไม่มีเครื่องต่อรองเมื่อต้องการให้เด็กทำสิ่งใดให้ หรือเด็กต้องพยายามทำเรื่องใดให้ตัวเองประสบความสำเร็จ เด็กก็ไม่มีแรงจูงใจจะทำมัน เป็นเด็กเฉื่อยชา หลีกเลี่ยงอะไรที่ทำแล้วยาก ไม่ชอบล้มเหลว ไม่ชอบแพ้ พาลเจ้าอารมณ์ และอยู่ในcomfort Zoneของตัวเอง เด็กพวกนี้เมื่อเติบโตจะทนต่อความผิดหวังหรือล้มเหลวไม่ได้ เพราะเด็กไม่เคยไม่มี . การที่เด็กจะได้อะไรมา เด็กต้องเรียนรู้ว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ต้องทำให้เด็กรู้สึกให้ได้ เช่นอยากหุ่นยนต์ ต้องรู้ว่ากว่าจะได้มาต้องแลกกับการทำงาน ต้องมีเงินทำนานเท่าไหร่ไปซื้อ อยากได้เสื้อใหม่ เด็กต้องรู้ราคาของเสื้อ และเด็กต้องเสียเงินส่วนหนึ่งของตนเองที่เก็บออมไว้ออกมาซื้อมัน โดยแม่จะออกให้ครึ่งหนึ่ง เด็กจะเห็นแล้วว่า เงินส่วนของตัวเองได้พร่องลงไป เกิดความรู้สึกเสียดายขึ้นมาบ้าง . ให้เด็กได้รู้สภาพการเงินของที่บ้าน วันนี้มีรายได้เท่าไหร่ ต้องจ่ายค่าอะไรบ้างในบ้าน เสนอให้เด็กได้ช่วยจ่ายไหม ลองแหย่ถามดู การพาเด็กไปเห็นการทำงานของพ่อแม่เป็นเรื่องดี เมื่อเด็กเห็นเราทำงาน เขาเข้าใจเรา และเห็นอกเห็นใจเรามากขึ้น เห็นเป็นภาพได้ดีกว่าเราไปบ่นให้เด็กฟัง ว่าเราทำงานลำบาก มันลอยๆ ไม่เห็น . การเลี้ยงดูเด็กเป็นเรื่องง่าย แค่เราเข้าใจ สู้ๆนะคะ . เพราะเราคือทีมเดียวกัน . สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ เชิญลงครอสสัมมนาได้แล้วนะคะ ตามรายละเอียดที่โพสปักหมุด #vipkidclub #การเลี้ยงเด็ก #การสอนเด็ก #เด็กพิเศษ #พ่อแม่ #พัฒนาการเด็ก #เด็กพิเศษ #โฆษณาSKII #ของขวัญของเด็ก #วันปีใหม่ #วันคริตส์มาส #การศึกษาพิเศษ #ครูการศึกษาพิเศษ

Timeline Photos

มีคนส่งเรื่องเกี่ยวกับการรณรงค์ไม่ให้แกล้งเด็กพิเศษที่โรงเรียนมาให้ครูช่วยรณรงค์ . ครูคิดว่าเป็นคำพูดที่ไม่มีน้ำหนักให้คนอยากปฏิบัติตาม พูดแล้วหายไป ครูมุ่งไปที่การสร้างความเข้าใจก่อน มันเหมือนกับ การสั่งให้อย่าทำ ง่ายที่คนพูด และยากที่คนทำ เพราะเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เช่นมีคนติดป้ายว่า “อย่าเดินลัดสนาม” ก็ยังมีคนแอบเดินอยู่ดี แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น ให้ความรู้ก่อน คนจะเชื่อมากขึ้น เช่น “สนามกำลังฉีดยาฆ่าหญ้าชนิดรุนแรง อย่าเดินลัดสนาม” อันนี้ได้ผลมากกว่า ครูมองว่าวิธีช่วยที่ดีที่สุด คือการให้ความรู้แก่ครูที่โรงเรียนเด็ก และการให้ความรู้กับพ่อ แม่เด็ก เพื่อนำไปสอนเด็กต่อว่าทำอย่างไรเด็กถึงจะเข้าใจกัน และสอนให้เด็กทั้งสองฝ่ายมีทัศนคติที่ดีต่อกันด้านบวก เริ่มจากความคิด ไปสู่การกระทำ เพจนี้จึงมุ่งเน้นให้ความรู้มากกว่ากับสั่ง หรือตัดพ้อ ต่อว่า แบ่งคนออกเป็นสอนกลุ่ม คนกระทำกับคนโดนกระทำ อยากให้พลังด้านดีอบอวลที่นี่ เราคือทีมเดียวกันทั้งหมด พวกเดียวกันทั้งหมด ครูควรสร้างทัศนคติที่ดีต่อเด็กพิเศษก่อนเป็นอย่างแรก ว่าเด็กก็คือเด็ก ยิ่งเด็กพิเศษจะซื่อและเถรตรง โดนชักจูงให้ตี หรือคึกคะนองง่าย ไม่มีจริตใดใด จึงทำให้เด็กพิเศษสอนง่าย และมองออกง่ายกว่าโรคจิต โรคประสาทมาก ครูถ่ายทอดความรู้สึกนี้ต่อนักเรียนในชั้น โดยการพูดให้เข้าใจ เช่น “น้องกี้เล่นแรงเพราะเขากะแรงไม่เป็น ถ้าน้องแตงโมโดนน้องกี้ลาก แล้ววิ่งตามไม่ทัน ต้องบอกนะคะว่าช้าหน่อย หยุดก่อน ไม่ใช่ ปล่อยน้องกี้ลาก แล้วตัวเองก็ล้ม แล้วร้องไห้” พูดสอนเด็กด้วยความอารี ไพเราะ . ครูเคยใช้วิธีนี้ ได้ผล พยายามอยู่๓เดือน เด็กทุกคนในห้องก็เล่นกับน้องกี้ มองเป็นเด็กด้วยกัน . ไม่ควรไปพูดว่า “น้องกี้เล่นแรง ก็ไม่ต้องไปเล่นกับมัน จะได้ไม่มีเรื่อง น้องกี้เป็นเด็กออฯ” แบบนี้เด็กทุกคนก็จะกลัวน้องกี้ และทำร้ายน้องกี้ . เพราะการตีคือการป้องกันตัวเองตามสัญชาติญาณการเอาตัวรอด สิ่งใดที่อันตราย สิ่งใดไม่เข้าพวก มักโดนต่อต้าน เพื่อความปลอดภัยของเผ่าพันธุ์ . ถ้าเด็กๆในห้องทำร้ายน้องกี้ รู้สึกรังเกลียดน้องกี้ เราจะสามารถสะท้อนไปถึงครูประจำชั้นได้ ว่าเขาเป็นคนเช่นไร เพราะครูเปรียบเหมือนศาสดาของเด็ก . ในทางจิตวิทยาเด็ก เมื่อเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน เด็กจะเชื่อฟังครูมากกว่าเชื่อฟังพ่อแม่ เช่น บางเหตุการณ์ ที่ต้องเปลี่ยนชุดแต่งตัวไปโรงเรียนไปจากเดิมเด็กไม่ยอมเปลี่ยน ต้องโทรไปหาครูให้ครูพูดว่าเปลี่ยนได้ เด็กถึงเปลี่ยน หรือต้องเตรียมแก้วพลาสติกไปโรงเรียนเพื่อทำโทรศัพท์ แม่บอกว่าใช้แก้วกระดาษแทนได้ เด็กยังไม่ยอม บอกว่าครูให้ใช้แก้วพลาสติก คุณแม่ต้องงัดพลังงานมหาศาลมาสู้โดยการเปิดgoogle ให้ดูว่ามันใช้ทำได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ชนะครูอยู่ดี . ดังนั้นการพูดตีตราว่าเด็ก จึงทำให้เด็กในห้อง เชื่อแบบนั้นได้ และพฤติกรรมจึงเปลี่ยนไปตามพลังด้านที่ครูมี ส่วนพ่อแม่เด็กพิเศษ ต้องเตรียมลูกตัวเองให้พร้อม ทั้งทักษะการช่วยเหลือตนเอง พฤติกรรม อารมณ์ สังคม วิชาการ ภาษาและการสื่อสาร การมองโลกในด้านบวก ทักษะการแก้ปัญหา การพัฒนาตนเองของลูกสำคัญ หาจุดเด่นของลูกให้ได้ อย่ารอแต่ให้คนเข้าใจ และเรียกร้อง คนจะเข้าใจเราก็ต่อเมื่อเราเข้าใจเขา คุณพ่อคุณแม่ต้องปรับตัว ความคิด หาความรู้เพื่อพัฒนาลูก ถ่ายทอดให้คนที่เกี่ยวข้องกับเด็กเป็น การที่ลูกมีบุคลิกเช่นใด ก็สะท้อนความคิดการสอน หรือการปล่อยปะละเลยของคนเลี้ยงเช่นกัน เพราะเราคือทีมเดียวกัน สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ #เด็กพิเศษ #การฝึกเด็ก #พัฒนาการเด็ก #การศึกษาพิเศษ #พ่อแม่เด็ก #ลูก #การสอนเด็กให้ได้ผล #นักการศึกษาพิเศษ #จิตวิทยาเด็ก #เข้าใจเด็ก #vipkidclub

หมดกันไปแล้วนะคะ สำหรับราคาพิเศษ 3,500บาท เรียน๒วัน ต่อไปเป็นราคาปกติ 5,500บาท . . ครูรอทุกคนอยู่นะคะ หวังว่าเราจะได้พบกัน . จุดประสงค์ของครูหคือต้องการให้ทุกคนได้มีความรู้ในการฝึกเด็กเอง หรือเอาความรู้ไปแบ่งปัน ใช้ได้ทั้งเด็กปกติ และเด็กพิเศษ การสอนเด็กจะง่ายขึ้น . ครูอาจไม่ได้อยู่ฝึกเองไปตลอดชีวิต วันหนึ่งครูอาจไปใช้ชีวิตตามความสนใจเรื่องเกษตรอินทรีย์ ณ อีกที่หนึ่ง เมื่อไปแล้วเพจนี้ และตัวครูอาจจะหายไป และจะน่าเสียดายมากความรู้จะโดนบรรจุใส่กระเป๋าปิดตาย . ตอนนี้ยังมีคนสมัครเรียนไม่มาก เพราะเพจครูมีคนรู้จักน้อย แต่ครูก็ยังหวังว่า จะมีคนสมัครเพิ่ม ...คนที่สมัครเข้ามาแล้ว ครูขอบคุณมากที่ให้ความไว้วางใจ เราได้พบกันแน่นอน ...มันเป็นจรรยาบรรณที่ครูยึดถือ มีลูกศิษย์แค่คนเดียวมาเรียน ครูก็สอน ครูมองไปที่จิตใจของคนที่สมัครเข้ามามากกว่า เขาให้ใจเรา ...เราต้องเต็มที่ . ความจริงใจที่จะมอบความรู้นี้ให้จะติดตัวท่านไป ขยายต่อไปเรื่อยๆ ผลจะเกิดกับเด็กๆทุกคน อนาคตของเรา ของครอบครัว ของชาติ . เพราะเราคือทีมเดียวกัน . สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ #ครอสสัมมนา #การศึกษาพิเศษ #vipkidclub #เด็กพิเศษ #พัฒนาการเด็ก #วิธีสอนลูก #การปรับพฤติกรรมเด็ก

Photos from เด็กพิเศษ พัฒนาการเด็ก การศึกษาพิเศษ's post

การปรับพฤติกรรมเด็กโดยใช้ตัวต้นแบบ . ตอนนี้ครูกำลังติดซีรีส์เรื่อง Legend of the blue sea อยู่ค่ะ ชอบทั้งพระเอก นางเอกมานานมาก ลงตัวที่สุด มีเสน่ห์มากๆ อร๊ายยย. " .. ครูเลือกดูซีรีส์ และละครมากพอควร เรื่องก่อนๆที่เป็นทหารกับคุณหมอ ครูก็ไม่อินนะคะ เปิดดูได้๒ตอน ปิดเลยค่ะ เป็นความชอบส่วนตัว เอาตัวครูเป็นมาตรฐานไม่ค่อยได้ ครูเป็นพวกเลือกหน้าตา เนื้อเรื่อง บทต้องมีเหตุผลให้เชื่อ actingจริตจะก้านพระ-นางต้องได้ คือทุกอย่างต้องไปพร้อมกัน . เรื่องนี้ยอมรับว่าติด จนอยากทำผม แต่งหน้า แต่งตัว หุ่นดี และทำตัวธรรมชาติน่ารักๆเหมือนนางเอก . สิ่งที่มาละ คือ การแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว ...รองเท้ายังหาไม่ได้ ฮ่าๆ...นิสัยนี่ก็น่าจะจะพยายามไม่เครียดเหมือนนางเอก . พอครูทำแบบนี้ปุ๊ป นึกถึงการปรับพฤติกรรมที่ครูใช้บ่อยกับเด็กๆ แล้วได้ผลค่ะ คือการหาตัวต้นแบบ . การมีต้นแบบจะทำให้เราเปลี่ยนตัวเราได้ง่ายมากขึ้น เราจะมีแรงบันดาลใจดีดี และเห็นภาพของบุคคลนั้นมาสร้างให้ตัวเรา . ดังนั้นการถามความใฝ่ฝันว่าเด็กอยากเป็นอะไร จึงสำคัญนะคะ เช่นเขาอยากเก่งเหมือน Ant Man อยากทำอาหารเก่งเหมือนการ์ตูนในเรื่องStar chef กุ๊กสาวข้ามเวลา . เราจึงจะสามารถเกลี่ยกล่อมเด็กๆ ให้มีนิสัยอย่างที่เราต้องการได้ง่ายๆ เช่นอยากแข็งแรงอย่าง Ant Man ต้องกินเยอะๆ ให้หมดจาน ไม่อย่างงั้นเราจะไปช่วยใครได้เล่า......อยากทำอาหารเก่งเหมือน Star chef ฯ ต้องอ่านหนังสือให้ออก ตั้งใจเรียนไม่อย่างงั้นจะอ่านวัตถุดิบไม่ออก วัดตวงของก็ไม่รู้ตัวเลข . มีอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า "ถ้าคุณอยากเล่นฟุตบอลเก่ง และคุณไม่ชอบใครเลยที่เล่นฟุตบอล คุณจะเก่งได้อย่างไร?" . ครูว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะคะ . แล้วคุณล่ะมีใครเป็นแรงบันดาลใจ เป็นตัวต้นแบบ? . มาร่วมสร้างเด็กเก่ง ดี มีสุขไปด้วยกันนะคะ ในสัมมนาครูจะเปิดเผยการสอนเด็กให้ได้ผลทั้งหมดให้ฟัง แล้วพบกันในงาน ลงเรียนเลยค่ะ . เพราะเราคือทีมเดียวกัน . สุธิดา นักการศึกษาพิเศษ #เด็กพิเศษ #การเลี้ยงลูก #ตัวต้นแบบ #แรงบันดาลใจ #vipkidclub #พัฒนาการเด็ก #การศึกษาพิเศษ #ครูการศึกษาพิเศษ #legentofthebluesea #การสอนเด็ก #การสอนเด็ก #จิตวิทยาเด็ก

Timeline Photos

เหลืออีก1วันเท่านั้น สำหรับราคาพิเศษ3,500บาท จากราคาพิเศษ 5,500บาท ก่อน5ธันวาคม นะคะ รีบหน่อยค่ะ . สอนเด็กให้อ่านออกเขียนได้เป็นเรื่องง่าย ความลับโดนเปิดเผยที่นี่ . สอนเด็กสมาธิสั้นให้ตั้งใจเรียนเป็นเรื่องง่าย ความลับจากศูนย์กระตุ้นพัฒนาการโดนเปิดเผยที่นี่ ง่ายมาก . สอนเด็กให้ควบคุมอารมณ์ตนเอง เป็นเรื่องง่าย สอนแบบจับมือทำที่นี่ . สอนเด็กให้เชื่อฟังง่ายๆ ได้ที่นี่ ความลับของศุนย์ฝึกที่ไม่ใครอยากบอก เปิดเผยแล้วที่นี่ . หลักสูตรนี้เหมาะกับผู้ปกครองเด็กที่มีลูกหลานทุกคน เหมาะกับคร๊ที่คนในชั้นอนุบาลและประถม . แล้วเราจะได้พบกัน . เราทำงานเป็นทีมเดียวกัน สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ #อ่านออกเขียนได้ #พัฒนาการเด็ก #ลูก #พ่อแม่ #นักเรียน #เด็กพิเศษ

Timeline Photos

เด็กพิเศษ จะมีความพิการอยู่9แบบตามพรบ.การศึกษาฯ ซึ่งมีความบกพร่องแบบต่างๆได้แก่ 1.บกพร่องด้านร่างกาย และการเคลื่อนไหว 2.บกพร่องอารมณ์ สังคม 3.บกพร่องภาษาและการสื่อสาร 4.บกพร่องทางสายตา 5.บกพร่องทางการได้ยิน 6.ล่าช้าทางสติปัญญา 7.ออทิสติค 8.บกพร่องทางการเรียนรู้ 9.พิการซ้ำซ้อน . ร่วมเข้าใจเด็กพิเศษไปพร้อมๆกับที่นี่ และสัมมนา สอนเด็กพิเศษให้เป็นเด็กปกติ . เพราะเราคือทีมเดียวกัน สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ 0819629938 #vipkidclub #วันคนพิการ #เด็กพิเศษ #พัฒนาการเด็ก

Boy's Thought

Photos from เด็กพิเศษ พัฒนาการเด็ก การศึกษาพิเศษ's post

วันนี้จะเขียนถึงงานของครูการศึกษาพิเศษ ที่ศูนย์ประจำจังหวัด . เป็นภาพของครูนก สุวันนา ดวงจันทร์ข้าราชการนักการศึกษาพิเศษ เพื่อนของครูเอง . ดังที่เขียนไว้เมื่อวันก่อน ว่าครูการศึกษาพิเศษเมื่อเรียนจบออกมา ทุกคนจะกระจายไปทำงานในสายงานต่างๆ นี่แค่ส่วนหนึ่ง มีอีกหลายคนเมื่อจบออกมาไปอยู่สถานที่ทำงานต่างกัน . งานของครูการศึกษาพิเศษที่ศูนย์ จะเริ่ม๒แบบคือ ออกค้นหาเด็กพิเศษตามบ้าน เดินหาแบบปูพรม หรือตามที่รับแจ้งมา และตั้งรับคือเด็กมาสมัครเรียน . ในกรณีที่เด็กมาเรียนไม่ได้ ครูจะไปสอนพ่อแม่ให้สอนเด็กเป็น ฝึกด้านร่างกาย การช่วยเหลือเด็กในชีวิตประจำวัน สอนวิชาการ ครูจะมองหาศักยภาพที่เหลืออยู่ สอนการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือเพื่อใช้ชีวิตประจำวันที่บ้าน ให้เด็กเพิ่งตนเองให้มากที่สุด เดินลงข้างล่างบ้านเอง หยิบของเอง อะไรที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการช่วยเหลือตนเองของเด็ก แนะนำการทำอุปกรณ์จากสิ่งใกล้ตัวให้ เราจะไม่ใช้ของราคาแพง ขนขวายหามา อะไรใช้แทนได้เหมือนๆกันก็สร้างมันขึ้นมา . พ่อแม่ควรให้เด็กใช้ศักยภาพของตนเองใช้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการรับใช้ลูก จนเราไม่เป็นอันทำงานทำการ . เพื่อนคนนี้เป็นข้าราชการ จึงต้องทำตามหน้าที่สอนเด็กพิเศษทุกประเภท อย่างเลือกไม่ได้ เพราะมันคือหน้าที่ . แต่ครูออกมารับงานเอง เลยเลือกรับเด็กได้ เมื่อมีคนถามว่าครูสอนอะไร ครูก็จะตอบตามวัตถุประสงค์ของสถานบัน VIP Kid Club ไม่ได้ตอบแบบหน้าที่จริงๆ ของครูการศึกษาพิเศษ . ในสัมมนาท่านจะรู้ทุกอย่างที่ควรรู้ และฝึกปฏิบัติได้เอง...งดshoppingครู ได้รับคำแนะนำทีละขยัก . เพราะเราคือทีมเดียวกัน สุธิดา นักการศึกษาพิเศษ #ศูนย์การศึกษาพิเศษ #ครูการศึกษาพิเศษ #vipkidclub #เด็กพิเศษ #พัฒนาการเด็ก #การศึกษาพิเศษ #การสอนเด็กพิเศษ

ครอสสัมมนา "สอนเด็กพิเศษให้เป็นเด็กปกติ" ราคาพิเศษ 3,500บาทจากราคาเต็ม5,500บาท ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2559 นี้ ....เหลืออีก4วัน . รีบจองด่วนนะคะ ก่อนที่จะเต็ม30คน . และขอบคุณคนที่จองเข้ามากลุ่มแรกๆด้วยค่ะ..เปิดโฆษณาวันแรกก็โอนเลย ขอบคุณจริงๆ. ทำให้ครูมั่นใจ มีพลังว่ามีคนตั้งใจมาเรียนนะ ต้องสอนเต็มที่ . ขอบคุณทุกท่านค่ะ . ความรู้วิธีการฝึกนี้จะอยู่กับท่านไปตลอดชีวิต . และผู้อบรมรุ่นแรกนี้ ครูเก็บไว้ในความทรงจำของครูตลอดไป...ขออนุญาตถ่ายรูปกันล่วงหน้าไว้ใส่กรอบครั้งแรกไว้ที่บ้านด้วยค่ะ ^^ . อะไรที่เป็นครั้งแรกมักจับได้ยาวนานมาก ท่านเป็นเหมือนพลังและแรงบันดาลใจ ให้ครูทำต่อ . รุ่นต่อไปไม่รู้เมื่อไหร่นะคะ เพจครูเป็นเพจเล็กๆ ยังไงช่วยแชร์ครอสต่อ ประชาสัมพันธ์ด้วยค่ะ อยากให้ทุกคนได้ทำเป็น . เราคือทีมเดียวกัน . สุธิดา ครูนักการศึกษาพิเศษ 0819629938 #ครอสสอนเด็กพิเศษให้เป็นเด็กปกติ