วัดราชินีแห่งสันติสุข - Queen of Peace 101
Description
วัดคาทอลิกราชินีแห่งสันติสุข มิสซาวันอาทิตย์ 7.30, 9.00, 11.00 และ 17.00 น. วัดราชินีแห่งสันติสุข (สุขุมวิท 101) มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Queen of Peace Catholic Church อยู่ในสังกัดของวัดในเขตปกครอง 1 ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยซิสเตอร์คณะพระกุมารเยซู และพระสงฆ์คณะพระมหาไถ่เป็นผู้ริเริ่มวัดราชินีฯ มิสซาวันธรรมดา เวลา 18.00 น.มิสซาวันเสาร์ เวลา 17.00 น.และมิสซาวันอาทิตย์เวลา 7.30, 9.00, 11.00 และ 17.00 น.
ท่านสามารถเยี่ยมชมลิงค์รายละเอียดเว็บไซต์ของวัดได้ที่
http://www.catholic.or.th/archive/archbkk/church/church1/archbkk16.html
แผนที่ครับ -> https://maps.google.co.th/maps/ms?authuser=0&vps=2&hl=en&ie=UTF8&oe=UTF8&msa=0&msid=209237289516361191888.0004cc0fdc9b0c9cf841a
คุณพ่อยอห์นบัปติสตา บุญเสริม เนื่องพลี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 10 ตั้งแต่ พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ถึงปัจจุบัน
Tell your friends
RECENT FACEBOOK POSTS
facebook.comสารวัด วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561
พระวาจาประจำวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018 ระลึกถึง น.สกอลัสติกา พรหมจารี บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 8:1-10 ครั้งนั้น ประชาชนจำนวนมากชุมนุมกันอีก และไม่มีอะไรกิน พระองค์จึงเรียกบรรดาศิษย์เข้ามา ตรัสกับเขาว่า “เราสงสารประชาชนเพราะเขาอยู่กับเรามาสามวันแล้ว และเวลานี้ไม่มีอะไรกิน ถ้าเราให้เขากลับบ้านโดยไม่ได้กินอะไร เขาจะหมดเรี่ยวแรงขณะเดินทาง เพราะมีหลายคนเดินทางมาจากที่ไกล” บรรดาศิษย์จึงทูลตอบว่า “ใครจะหาอาหารในที่เปลี่ยวเช่นนี้มาให้คนเหล่านี้กินจนอิ่มได้” พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านมีขนมปังกี่ก้อน” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อน” พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงบนพื้นดิน ทรงหยิบขนมปังเจ็ดก้อนนั้น ตรัสขอบพระคุณพระเจ้า แล้วทรงบิขนมปัง ประทานให้บรรดาศิษย์ไปแจกจ่าย เขาก็แจกจ่ายขนมปังให้ประชาชน เขายังมีปลาตัวเล็กๆ อยู่บ้าง พระองค์ทรงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า ทรงสั่งให้แจกจ่ายปลาเช่นเดียวกัน ทุกคนกินจนอิ่ม และยังเก็บเศษที่เหลือได้อีกเจ็ดตะกร้า ผู้ที่กินขนมปังและปลามีประมาณสี่พันคน พระองค์ทรงส่งเขากลับไป แล้วพระองค์เสด็จลงเรือพร้อมกับบรรดาศิษย์ไปยังบริเวณเมืองดาลมานูธาทันที ข้อคิด พระเยซูเจ้าทรงขอขนมปังจากผู้ติดตามพระองค์ เพื่อใช้ในการทำอัศจรรย์ช่วยเหลือผู้อื่น พระองค์มิได้หยุดแค่นั้น พระองค์ยังทรงขอแม้ปลาตัวเล็กๆ ที่ยังพอมีเหลืออยู่อีกเล็กๆน้อยๆ ที่บางทีเจ้าของอาจอยากจะเก็บไว้สำหรับตัวเองในยามขาดแคลนสุดๆบ้าง แต่ดูเหมือนพระองค์ขอจนหมดจริงๆ พระองค์ทรงขอจนหมด หมดทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ หากวันนี้ หรือในชีวิตนี้ พระองค์ทรงขอเช่นนี้จากเรา แล้วเราจะว่าอย่างไร ?
พระวาจาประจำวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2018 บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 7:31-37 เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากเขตเมืองไทระผ่านเมืองไซดอน ไปยังทะเลสาบกาลิลีกลางดินแดนทศบุรี มีผู้นำคนใบ้หูหนวกคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ ทูลขอร้องให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์ พระองค์ทรงแยกคนใบ้หูหนวกคนนั้นไปจากกลุ่มชน ทรงใช้นิ้วพระหัตถ์ยอนหูของเขา ทรงใช้พระเขฬะแตะลิ้นของเขา ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นเบื้องบน ถอนพระทัย แล้วตรัสว่า “เอฟฟาธา” แปลว่า “จงเปิดเถิด” ทันใดนั้นหูของเขากลับได้ยิน สิ่งที่ขัดลิ้นอยู่ก็หลุด เขาพูดได้ชัดเจน พระเยซูเจ้าทรงห้ามประชาชนเหล่านั้นมิให้พูดเรื่องนี้กับผู้ใด แต่ยิ่งห้าม ก็ยิ่งเล่าลือกันมากขึ้น ต่างก็ประหลาดใจมาก กล่าวว่า “คนคนนี้ทำสิ่งใดดีทั้งนั้น เขาทำให้คนหูหนวกกลับได้ยิน และคนใบ้กลับพูดได้” ข้อคิด เป็นที่ประหลาดใจไม่น้อย ที่พระเยซูเจ้าทรงห้ามประชาชนพูดเรื่องอัศจรรย์ให้ผู้อื่นฟัง ....อาจเป็นได้ โดยเรื่องเล่าอัศจรรย์ จะมีผู้คนจำนวนมากขึ้นติดตามพระเยซูเจ้า แต่เบื้องลึกในใจ เขาเหล่านั้นอาจติดตามอัศจรรย์ มิได้ติดตามพระเยซูเจ้า ดังที่ปรากฏว่า เมื่อพวกเขาหรือแม้พวกเรา ไม่พบว่าพระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์ใดๆ ในเวลาที่พระเยซูเจ้าถูกจับ ถูกทรมาน และถูกตรึงกางเขน เราก็ไม่ติดตามพระเยซูเจ้าอีกแล้ว ....เราติดตามอัศจรรย์ เรามิได้ติดตามพระเยซูเจ้า
พระวาจาประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 7:24-30 เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่น เข้าไปในเขตเมืองไทระ และเสด็จเข้าในบ้านหลังหนึ่ง ไม่ทรงต้องการให้ผู้ใดรู้ แต่ทรงซ่อนพระองค์ไม่ได้ ทันใดนั้น หญิงคนหนึ่งมีบุตรหญิงถูกปีศาจสิงได้ยินพูดถึงพระองค์ ก็มากราบพระบาท นางไม่ใช่ชาวยิว เป็นชาวซีโรฟีนีเซียโดยกำเนิด นางทูลอ้อนวอนพระองค์ให้ทรงขับไล่ปีศาจออกจากบุตรหญิง พระองค์ตรัสกับนางว่า “ให้ลูกๆ กินอิ่มเสียก่อน เพราะไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูกมาโยนให้ลูกสุนัขกิน” หญิงนั้นทูลตอบว่า “ถูกแล้ว พระเจ้าข้า แต่ลูกสุนัขที่อยู่ใต้โต๊ะก็ยังได้กินเศษอาหารของลูกๆ” พระองค์จึงตรัสกับนางว่า “เพราะถ้อยคำนี้ จงไปเถิด ปีศาจออกจากลูกสาวของเธอแล้ว” เมื่อกลับมาถึงบ้าน นางก็พบลูกนอนอยู่บนเตียง ปีศาจออกไปแล้ว ข้อคิด เมื่อมนุษย์เรารับรู้และเผชิญหน้ากับความเป็นจริงแห่งชีวิตของตนเอง โดยอยู่ต่อหน้าพระ พระหรรษทานความช่วยเหลือก็จะมาสู่ผู้นั้น แต่ถ้าบุคคลใด แม้มีชื่อเป็นบุตรของพระโดยศีลล้างบาป แต่รับความจริงไม่ได้ว่า ตนเองมีข้อจำกัด มีความอ่อนแอ มีแม้บาป ก็จะเป็นดังหัวใจที่ปิดประตู พระหรรษทานความช่วยเหลือย่อมเข้าสู่บุคคลนั้นไม่ได้ ....พระเยซูเจ้าไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป คนสบายดีไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บไข้ต้องการ
พระวาจาประจำวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 7:14-23 เวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงเรียกประชาชนเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ตรัสว่า “ทุกคนจงฟังและเข้าใจเถิด ไม่มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ทำให้เขามีมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในของมนุษย์นั้นแหละทำให้เขามีมลทิน ใครมีหูสำหรับฟัง ก็จงฟังเถิด” เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในบ้าน ห่างจากประชาชน บรรดาศิษย์จึงทูลถามพระองค์ถึงข้อความที่เป็นปริศนานั้น พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ท่านก็ไม่มีปัญญาด้วยหรือ ท่านไม่เข้าใจหรือว่าสิ่งต่างๆ จากภายนอกที่เข้าไปในมนุษย์นั้นทำให้เขามีมลทินไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เข้าไปในใจ แต่ลงไปในท้อง แล้วออกไปจากร่างกาย” ดังนี้ ทรงประกาศว่าอาหารทุกชนิดไม่เป็นมลทิน พระองค์ยังตรัสอีกว่า “สิ่งที่ออกจากภายในมนุษย์นั้นแหละทำให้เขามีมลทิน จากภายในคือจากใจมนุษย์นั้นเป็นที่มาของความคิดชั่วร้าย การประพฤติผิดทางเพศ การลักขโมย การฆ่าคน การมีชู้ ความโลภ การทำร้าย การฉ้อโกง การสำส่อน ความอิจฉา การใส่ร้าย ความหยิ่งยโส ความโง่เขลา สิ่งชั่วร้ายทั้งหมดนี้ออกมาจากภายใน และทำให้มนุษย์มีมลทิน” ข้อคิด แม้ใจมนุษย์นั้น จะเป็นที่มาของความคิดชั่วร้าย และบ่อเกิดของบาปต่างๆ แต่พระเยซูเจ้าก็มิได้มาเพื่อตัดสินลงโทษ แต่มาเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอด .....ขอพระบิดา ได้โปรดให้เรามีความพากเพียร ความจริงใจ และความไว้วางใจ ในการเปิดหัวใจของเรา ให้พระองค์เข้ามาอยู่และรักษาเรา ผู้เป็นลูกๆของพระองค์ ให้เรากล้าที่จะเผชิญหน้าและรับรู้ความอ่อนแอและความผิดหลงของเรา ให้สามารถเดินทางจากภายนอกสู่ภายใน เดินจากหัวคิดสู่หัวใจ พร้อมเปิดรับให้พระอยู่ในใจที่แม้อ่อนแอไร้ความสมบูรณ์ของเรา
พระวาจาประจำวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 7:1-13 เวลานั้น ชาวฟาริสีและธรรมาจารย์บางคนจากกรุงเยรูซาเล็มมาเฝ้าพระเยซูเจ้าพร้อมกัน เขาสังเกตว่าศิษย์บางคนของพระองค์กินอาหารด้วยมือที่ไม่สะอาด คือไม่ได้ล้างมือก่อน เพราะชาวฟาริสีและชาวยิวโดยทั่วไปย่อมถือขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ เขาไม่กินอาหารโดยมิได้ล้างมือตามพิธีก่อน เมื่อกลับจากตลาด เขาจะไม่กินอาหารเว้นแต่จะได้ทำพิธีชำระตัวก่อน เขายังถือขนบธรรมเนียมอื่นๆ อีกมาก เช่น การล้างถ้วย จานชามและภาชนะทองเหลือง ชาวฟาริสีและธรรมาจารย์จึงทูลถามพระองค์ว่า “ทำไมศิษย์ของท่านไม่ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ และทำไมเขาจึงกินอาหารด้วยมือที่ไม่สะอาด” พระองค์ตรัสตอบว่า “ประกาศกอิสยาห์ได้พูดอย่างถูกต้องถึงท่าน คนหน้าซื่อใจคด ดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปาก แต่ใจของเขาอยู่ห่างไกลจากเรา เขานมัสการเราอย่างไร้ความหมาย เขาสั่งสอนบัญญัติของมนุษย์เหมือนกับเป็นสัจธรรม ท่านทั้งหลายละเลยบทบัญญัติของพระเจ้ากลับไปถือขนบธรรมเนียมของมนุษย์” แล้วพระองค์ทรงเสริมว่า “ท่านช่างชำนาญในการละเลยบทบัญญัติของพระเจ้า เพื่อถือขนบธรรมเนียมของท่านเองเสียจริงๆ เช่นโมเสสกล่าวว่า จงนับถือบิดามารดา และใครด่าบิดาหรือมารดา จะต้องรับโทษถึงตาย แต่ท่านกลับสอนว่า ‘ถ้าใครคนหนึ่งพูดกับบิดาหรือมารดาว่า ทรัพย์สินที่ลูกนำมาช่วยเหลือพ่อแม่ได้นั้นเป็นคอร์บัน คือของถวายแด่พระเจ้า’ ท่านก็อนุญาตให้เขาไม่ต้องช่วยเหลือบิดามารดาอีกต่อไป ท่านใช้ขนบธรรมเนียมที่ท่านสอนต่อๆ กันมาทำให้พระวาจาของพระเจ้าเป็นโมฆะ ท่านยังปฏิบัติเช่นนี้อีกมากมาย” ข้อคิด เมื่อร่างกายไม่สะอาด เราก็จะชำระล้างร่างกายด้วยน้ำและด้วยสบู่ แต่ถ้าเราจะชำระใจ เรามิอาจทำได้ด้วยวิธีภายนอก แต่เราต้องลงไปที่ใจ ด้วยความสุภาพ จริงจัง จริงใจ และไว้ใจในพระ หาใช่ด้วยความหยิ่งฮึกเหิมของเรา เราต้องขอความช่วยเหลือจากพระ ....เราเองได้เผชิญความจริงอยู่เรื่อยๆว่า เมื่อเราไปแก้บาป บาปเหล่านั้นก็ยังจะวนเวียนในเรื่องเดิมๆ ซึ่งด้วยกำลังของเรา เรามิอาจชำระ รักษา และแก้ไขได้อย่างจริงจัง ถ้าเราทำทั้งหมดนี้ได้ด้วยตัวเราเอง พระเยซูเจ้าคงไม่ต้องมาเกิดมาตายเพื่อช่วย และเพื่อไถ่บาปเรา
พระวาจาประจำวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ระลึกถึง น.อากาทา พรหมจารีและมรณสักขี บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 6:53-56 เวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงข้ามฟากพร้อมกับบรรดาศิษย์ มาจอดเรือขึ้นฝั่งที่เมืองเยนเนซาเร็ธ เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือประชาชนก็จำพระองค์ได้ทันที และคนในบริเวณนั้นต่างรีบมาหา นำผู้เจ็บป่วยนอนบนแคร่มาเฝ้าพระองค์ ณ สถานที่ที่เขาได้ยินว่าพระองค์ประทับอยู่ ไม่ว่าพระองค์เสด็จไปที่ใด ในหมู่บ้าน ในเมืองหรือในชนบท เขาก็นำผู้เจ็บป่วยมาวางตามลานสาธารณะ ทูลขอพระองค์ให้เขาสัมผัสเพียงชายฉลองพระองค์เท่านั้น และทุกคนที่สัมผัสแล้วก็หายจากโรคภัย ข้อคิด เราแสวงหาพระเยซูเจ้า ผู้เป็น “หมออัศจรรย์” รักษาโรคได้ทุกชนิด หรือ ผู้ทรงสามารถ “ดลบันดาล” ตามคำขอของผู้วอนขอ หรือเราแสวงหาพระองค์ ผู้ทรง “รักเรายิ่งกว่าชีวิตของพระองค์” ที่ทรงปรารถนาจะอยู่กับเรา ทั้งเมื่อเราทุกข์และเมื่อเราสุข ทั้งเมื่อเราประสบความสำเร็จและเมื่อพบความล้มเหลว ทั้งในยามที่เรามีเพื่อนมากมายรอบข้างและในยามที่เราถูกโดดเดี่ยวถูกเข้าใจผิด เรามุ่งแสวงหาพระองค์ด้วยเจตนาและจิตใจแบบไหน
แจ้งการสวดอุทิศแด่ผู้ล่วงลับ ณ วัดราชินีแห่งสันติสุข ------------ __พิธีสวดอุทิศแด่... ยอห์น บัปติสต์ วีรภัทร กุลเนตุ __กำหนดสวดศพ วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 18.30 น. ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดราชินีแห่งสันติสุข ------------ __พิธีบูชาขอบพระคุณ(มิสซา)ปลงศพ วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561ข เวลา 09.00 น. ณ วัดราชินีแห่งสันติสุข __หลังพิธีบูชาขอบพระคุณ(มิสซา)ปลงศพ เคลื่อนศพบรรจุศพที่... สุสานศานติคาม จ.นครปฐม ------------ __แจ้งงดมิสซา ดังนี้... วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 - งดมิสซาเย็น 18.00 น. ที่วัด
พระวาจาประจำวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2018 บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 1:29-39 ทันทีที่ออกจากศาลาธรรม พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในบ้านของซีโมนและอันดรูว์พร้อมกับยากอบและยอห์น มารดาของภรรยาซีโมนกำลังนอนป่วยเป็นไข้อยู่ เขาจึงทูลพระองค์ให้ทรงทราบทันที พระองค์เสด็จเข้าไปจับมือนาง พยุงให้ลุกขึ้น นางก็หายไข้ และรับใช้ทุกคน เย็นวันนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว มีคนนำผู้ป่วยและผู้ถูกปีศาจสิงมาเฝ้าพระองค์ คนทั้งเมืองมารวมกันที่ประตู พระองค์ทรงรักษาหลายคนที่เป็นโรคต่างๆ ให้หาย ทรงขับไล่ปีศาจออกไป แต่ไม่ทรงอนุญาตให้มันพูด เพราะมันรู้จักพระองค์ วันต่อมา พระองค์ทรงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เสด็จออกจากบ้านไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนาที่นั่น ซีโมนและผู้ที่อยู่กับเขาตามหาพระองค์ เมื่อพบแล้ว จึงทูลพระองค์ว่า “ทุกคนกำลังแสวงหาพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราไปที่อื่นกันเถิด ไปตามตำบลใกล้เคียง เพื่อจะได้เทศน์สอนที่นั่นด้วย เพราะเรามาด้วยจุดประสงค์นี้” พระองค์จึงเสด็จไปเทศน์สอนตามศาลาธรรมทั่วแคว้นกาลิลี ทรงขับไล่ปีศาจด้วย ข้อคิด พระเยซูเจ้าทรงทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานอภิบาล งานเทศน์สอน หรืองานประกาศข่าวดี แต่ตั้งแต่เช้าตรู่ พระองค์ทรงออกจากบ้าน ไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนา .....งานมิอาจแทนการภาวนา และการภาวนาก็มิอาจเป็นของจริง หากขาดซึ่งการทำงาน แม้ผู้คนจะแสวงหาพระองค์ เพราะเหตุผลของผลงานที่เห็นได้ เช่นอัศจรรย์การรักษาคนป่วย การขับไล่ปีศาจ แต่พระเยซูเจ้าก็ยังคงไว้ซึ่งความสำคัญของ “การไปยังที่สงัด และอธิษฐานภาวนา”
สารวัด วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561
พระวาจาประจำวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 6:30-34 เวลานั้น บรรดาอัครสาวกกลับมาเฝ้าพระเยซูเจ้าและทูลรายงานให้ทรงทราบถึงทุกสิ่งที่เขาได้ทำและได้สอน พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” เพราะมีคนไปมาจนเขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะกินอาหาร พระเยซูเจ้าจึงทรงลงเรือไปยังที่สงัดตามลำพังพร้อมกับบรรดาอัครสาวก ประชาชนหลายคนเห็นพระเยซูเจ้ากับบรรดาอัครสาวกแล่นเรือออกไป ก็คาดคะเนได้ว่า พระองค์จะทรงไปที่ใด จึงรีบเดินเท้าออกจากเมืองต่างๆ ไปที่นั่นและไปถึงก่อน เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ ทรงแลเห็นประชาชนจำนวนมากก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง พระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง ข้อคิด เมื่ออัครสาวกกลับมาเล่าและรายงานให้พระเยซูเจ้าทรงทราบทุกสิ่งที่เขาได้ทำนั้น พระเยซูเจ้ากลับทรงสนใจ “ตัวของสาวก” มิใช่ “ความสำเร็จของสาวก” พระองค์ทรงห่วงใยและชวนให้ไปพักผ่อนอยู่กับพระองค์ตามลำพัง มิใช่ให้สาวกอยู่ตามลำพังกับความสำเร็จของงานที่ได้กระทำ ซึ่งอาจนำไปสู่การจมอยู่กับความชื่นชมในความสำเร็จ จนหลงว่าศูนย์กลางและคุณค่าของชีวิตคือ ผลงานที่ประสบความสำเร็จ ศูนย์กลางของชีวิตกลับมิใช่การอยู่กับพระอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการอยู่กับตัวเอง ในรูปลักษณ์ของการอุทิศชีวิตเพื่อความสำเร็จในงาน
✨🕯LUX MUNDI สุขสันต์วันฉลองพระกุมารถวายองค์ในพระวิหาร ศุกร์ที่ 2 กุมภา 2018 " ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์ "
PICTURES BY OTHER USERS ON INSTAGRAM
เข้าหาพระเจ้า😇
เรียนพระคัมภีร์และพระบัญญัติ
ทุกวัน ด้วยกัน
ยิ่งโตยิ่งต้องหนักแน่น รู้ว่าผิดก็อย่ากลับไปทำอีก ###พญาสามองค์ ###
SUNDAY ✝️💕🙏
1st of 2017 no sunlight from beach, but the Light of Life from God #2017 #pleasebenice #godbless #godway
❤️🌹ที่แห่งนี้..มีแต่ความรัก 🌹❤️ #godblessyou #godislove #lovegod
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ทำผิดสันยามานานเท่าไหร่แล้ว แคทขอโทดนะ แคทคิดถึงหยวนนะ ฟ้าจะสว่างสดใส หรือหม่นหมองเท่าไหน มองขึ้นไปหยวนอยู่ตรงนั้นตลอดใช่มั้ย ดูแลแคทอย่างที่เคยเปน เหมือนที่ผ่านๆมา ขอบคุณที่ไม่เคยหายไปไหน ขอบคุณที่ดูแลแคทมาตลอด ขอบคุณที่เราได้รู้จักกัน #คิดถึงเสมอ เพื่อนรักตลอดไป #เพื่อนกันจนวันตาย